สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - admin

หน้า: 1 ... 3434 3435 [3436] 3437
51526
A8 รถย้ายบ้าน / รถรับจ้างขอนแก่น
« เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2020, 07:45:30 AM »
รถรับจ้างขนของ ขนย้ายบ้าน รับขนของทั่วไป ทีมงานมือาชีพด้านขนของย้ายบ้าน กระบะ 4 ล้อ, 6 ล้อคอก, 6 ล้อตู้, 10 ล้อคอก, 10 ล้อตู้, รถพ่วง

รถรับจ้างขอนแก่น
รถรับจ้างขนของขอนแก่น
รถกระบะรับจ้างขอนแก่น
รถหกล้อรับจ้างขอนแก่น
รถรับจ้างทั่วไปขอนแก่น
รับย้ายบ้านขอนแก่น
รับจ้างย้ายบ้านทั้งหลังขอนแก่น
รถบรรทุกรับจ้างขอนแก่น
จ้างเทรลเลอร์ขอนแก่น
รถเครนให้เช่าขอนแก่น
รถเฮี๊ยบให้เช่าขอนแก่น
รับจ้างขนย้ายขอนแก่น

               ติดต่อสอบถาม


บริการขนย้ายที่พักอาศัย ขนย้ายเพื่องานแสดงโชว์ ออกบูธ ตามสถานที่ต่างๆ พร้อมมีทีมงานพนักงานยกของไว้คอยบริการ ตลอด 24 ชั่วโมง
รถรับจ้างขนของราคาขอนแก่น
รถรับจ้างขนของใกล้ฉันขอนแก่น
รถรับจ้างขนของ6ล้อขอนแก่น
รถรับจ้างขนของทั่วไทยขอนแก่น
รถรับจ้างขนของขอนแก่น

 



บริการรถรับจ้างทั่วไปขอนแก่น

- บริการ รถรับจ้างขนของขอนแก่น รับจ้างทั่วไป เป็น รถกระบะ รถ 4 ล้อใหญ่ และ รถ 6 รับจ้าง ขนาดเล็กและใหญ่
- บริการย้ายบ้านขอนแก่น ห้องพัก หอพัก ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์
- บริการ ขนของ ขนส่ง ย้ายงานทั่วไป
- บริการ ทีมงาน คนยกของไว้คอยบริการตลอดเวลา
- บริการ ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
- บริการในพื้นที่ขอนแก่น กรุงเทพฯ -และออกต่างจังหวัด ทั่วราชอาณาจักร



- ขนย้ายหอพักขอนแก่น

- ขนย้ายที่อยู่อาศัยขอนแก่น
- ขนย้ายบ้านขอนแก่น
- ขนย้ายสำนักงานขอนแก่น
- ขนส่งอุปกรณ์ออกบูธงานแสดงสินค้า
- ขนย้ายงานอีเวนท์ขอนแก่น
- ขนย้ายย้ายออฟฟิตขอนแก่น
- บริการส่งสินค้าขอนแก่น
- ขนย้ายห้องเช่าขอนแก่น
- ขนย้ายคอนโดขอนแก่น
- ย้ายที่อยู่อาศัยขอนแก่น



สุนันท์ขนส่งขอนแก่น เราเป็นผู้ให้บริการ ให้เช่ารถเฮี๊ยบรับจ้างขอนแก่น รถบรรทุกติดเครน เพื่อรองรับการขนส่ง ขนย้าย สินค้า เครื่องจักร โฟล์คลิฟท์ ตู้คอนเทนเนอร์ รถบรรทุกติดเครน รถเฮ๊๊ยบให้เช่า มีเอกสาร ปจ.2 ใบเซอร์ บริการ: ให้เช่ารถเครน 5 ตัน ให้เช่ารถเครน 8 ตัน ให้เช่าแผ่นเหล็ก  ผลงานของเรา


51527
ประเภทของหูฉลามเมนูยอดนิยมบนโต๊ะจีน


หูฉลามในทุกวันนี้มีด้วยกัน 4 แบบ คือ

1 หูฉลามสด
   เป็นหูฉลามที่ลอกหนังออกแล้ว และกำลังได้รับความนิยมเนื่องจากไม่ผ่านกระบวนการใด ทำให้สารอาหารยังคงอยู่ และมีการปนเปื้อนสารเคมีน้อยที่สุด
2 หูฉลามแห้ง
   เป็นหูฉลามที่เรามักจะเห็นกันตามร้านภัคตาคารขนาดใหญ่ แขวนกันอยู่เรียงรายจนดูเหมือนปลาหมึกตากแห้งมากกว่าหูฉลาม

3 หูฉลามแปรรูป
   หูฉลามกระป๋อง เป็นอะไรที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันเท่าไหร่ แต่ก็ง่ายและสะดวกดีนะ

4 หูฉลามกึ่งสำเร็จรูป
   เป็นหูฉลามที่มักนำมาทำอาหารจัดเลี้ยงแบบที่เป็นเส้นๆ นั่นแหล่ะค่ะ แพคมาเป็นถุงใหญ่พร้อมปรุง

หูฉลามทางเลือก (กินไปไม่บาปชัวร์)

เป็นหูฉลามเทียมที่ทำเลียนแบบของจริง สำหรับผู้ที่ไม่อาจทำใจกินหูฉลามจริงได้ โดยส่วนผสมหลักคือสาหร่ายสีน้ำตาลและเจลาติน
นอกจากรสชาติและรสสัมผัสแล้ว สรรพคุณยังดีกว่าของจริงอีกด้วยคือให้ทั้งคอลาเจน และโอเมก้า 3 แบบไม่สูญเสียคุณค่าทางอาหาร

เลี้ยงโต๊ะจีน
จัดโต๊ะจีน
รับจัดโต๊ะจีน





51528
เลือกที่นั่งอย่างไรให้ปลอดภัยที่สุด บนรถโดยสารสาธารณะ


1. รถแท็กซี่
   ที่นั่งปลอดภัย : เบาะหลังคนขับและเบาะหลังตรงกลางจะเป็นจุดที่ปลอดภัยมากที่สุด
2. รถมินิบัส หรือรถตู้โดยสารสาธารณะ
   ที่นั่งปลอดภัย : รถบางรุ่นจะมีจุดที่นั่งสวนทางกับทางที่รถเคลื่อนที่
3. รถเมล์ หรือรถโดยสารประจำทาง
   ที่นั่งปลอดภัย : เราควรนั่งตรงข้ามกับทางขึ้น-ทางลงและโล่งเพื่อสะดวกในการหนีออกจากตัวรถ
4. รถไ
   ที่นั่งปลอดภัย : ควรจะเลือกที่นั่งตรงกลางโบกี้และนั่งในโบกี้ที่จะกลางขบวนให้มากที่สุด
5. เรือ
   ที่นั่งปลอดภัย : บริเวณดาดฟ้าเรือและชั้นกลางจะปลอดภัยที่สุด
6. เครื่องบิน
สำหรับการโดยสารเครื่องบินนั้น ยังไม่มีการยืนยันในจุดที่ปลอดภัยที่สุดออกมาอย่างชัดเจน

ประเภทรถบัสนำเที่ยว

1.รถไมโครบัสปรับอากาศ (Micro Bus) ขนาด 30-33 ที่นั่ง
2.รถโค้ชปรับอากาศ 8 ล้อ 2 ชั้น 50 ที่นั่ง
3.รถไมโครบัส (Micro Bus) 25 ที่นั่ง
4.รถไมโครบัส (Micro Bus) ขนาด 28-32 ที่นั่ง
5.รถมินิบัส (MiniBus) รถมินิบัส ขนาด 16-20 ที่นั่ง





51529


ถ้าเก่งมาก ก็ต้องยิ่งแกล้งโง่เป็น อ่านไว้เตือนใจ อย่าให้ชีวิตต้องพังเพราะหลงทนงตัว

มีแม่ทัพคนหนึ่งเล่นหมากล้อมเก่งมาก

ไม่ค่อยมีคนเล่นชนะได้

วันหนึ่ง.. แม่ทัพออกรบผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่ง

เห็นบ้านเล็ก ๆ หลังหนึ่ง มีป้ายติดว่า..

“เล่นหมากล้อมอันดับ 1 ของประเทศ”

แม่ทัพไม่เชื่อจึงเข้าไปหาเจ้าของบ้านและเล่นด้วย

ปรากฎว่า.. เจ้าของบ้านแพ้ ทั้ง 3 กระดาน

แม่ทัพหัวเราะ “555 แกเอาป้ายลงได้แล้ว”

แล้วแม่ทัพก็ไปออกรบด้วยความดีใจ





ไม่นาน.. แม่ทัพรบชนะกลับมา

ผ่านมาที่เดิม ก็ยังเห็นป้าย แขวนอยู่ที่บ้านหลังเดิม

แม่ทัพจึงเข้าไปหาเจ้าของบ้าน และท้าดวลอีก ปรากฎว่าครั้งนี้

แม่ทัพแพ้ทั้ง 3 กระดาน แม่ทัพประหลาดใจมาก

ถามเจ้าของบ้านว่าเพราะอะไร

เจ้าของบ้านตอบว่า

“ครั้งก่อน ท่านมีภารกิจออกรบ

ข้าน้อยจะไม่ทำท่านเสียกำลังใจ ท่านหมดขวัญกำลังใจไม่ได้

แต่ครั้งนี้ ท่านชนะกลับมา ข้าน้อยก็ไม่ต้องออมมือแล้ว”
 
คนที่เก่งจริงในโลกนี้ คือ..ชนะได้ แต่ไม่จำเป็นต้องชนะ

มีใจกว้างขวาง ก็พอ

การใช้ชีวิต ก็เหมือนกัน

“รู้ ไม่จำเป็นต้องพูด ไม่พูดใช่ว่า จะไม่รู้”

ต่อหน้าคนใจแคบ คุณต้องใจกว้าง

ถ้าทำใจกว้างไม่ได้ ก็ต้องแกล้งโง่…..

เพจ: ธรรมะผ่อนคลาย



ขอบคุณ ที่มา: tummathailand.com และ http://www.siamnews.online/2018/11/blog-post_3.html

51530

ในสังคมยุคนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การเรียนสูง มันไม่ใช่ประเด็นในการใช้ชีวิตอีกต่อไป เพราะถ้าเราทำงานไม่ดี หรืออยู่ร่วมกับสังคมการทำงานไม่ได้ นั้นก็แปลว่าเรานั้นทำงานไม่เป็น นี่จึงเป็นที่มาของประโยคที่ว่า “หมดยุคปริญญาแปะฝาบ้าน” ดังบทความที่จะกล่าวต่อไปนี้



ประเด็นแรกของเรื่องนี้คือ เรื่องการเรียน
ถ้าจะว่าไปว่า “การศึกษาบ้านเราเหมือนกับว่าเป็นเรื่องของคนที่เรียนเพียงคนเดียว” เรียนดีเรียนแย่ก็อยู่ที่คนนั้นเองทั้งสิ้นทั้งหมด พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ พี่น้อง ช่วยอะไรไม่ได้เลย สถาบันที่เรียนบางครั้งจบมาก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการทำงานของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับประสบการณ์และฝีมือในการทำงานและใช้ชีวิตอยู่กับผู้อื่นล้วน

ถ้าผลการเรียนออกมาดี ก็มีแนวโน้มว่า “น่าจะทำงานเก่ง” เพราะกว่าจะจบมันต้องฝึกต้องฝนกันมากมายหลายกระบวนท่า แต่อย่างไรก็ตาม การฝึกฝนในช่วงระหว่างที่กำลังเรียนอยู่นั้น มันฝึกฝนอยู่ในกรอบของสมมติฐานที่ว่า “ฝึกเพื่อเรียนรู้ ถ้าถูกก็แล้วไป แต่ถ้าผิดก็กลับไปแก้ไขใหม่จนกว่าจะดีขึ้น” ซึ่งเป็นหลักง่ายๆ ของชีวิตนักศึกษา เชื่อว่าเคยผ่านกันมาทุกคน



หากสังเกตุดีๆ จะเห็นว่าในช่วงที่เรากำลังศึกษาอยู่นั้นหากเราคิดผิด ทำผิด มันจะถูกลงโทษเพียงอย่างเดียวคือ เกรดหรือผลการเรียนจะออกมาไม่ดีหรือไม่ก็ติดเอฟ (F) ต้องไปลงทะเบียนเรียนใหม่กับเด็กรุ่นน้อง บางคนก็ไม่ถือเพราะหน้าด้าน บางคนเครียดมากเพราะอายกับการที่จะต้องไปเรียนกับรุ่นน้อง

ชีวิตวัยเรียนมีเรื่องให้เครียดปวดสมองไม่กี่เรื่อง นอกนั้นเป็นเรื่องสนุกสนานเฮฮาปาร์ตี้เสียเป็นส่วนใหญ่ บางคนถึงกับไม่อยากจบออกมา เพราะยังอยากสนุกกับชีวิตในช่วงวัยนี้ต่อไปอีก แต่เมื่อถึงเวลาจบก็ต้องจบ อยู่ที่ว่าตอนจบของช่วงวัยจะจบออกมาดี หรือจบออกมาแบบไม่ได้เรื่อง ซึ่งจะถูกนำไปพิสูจน์ต่อไป ในช่วงชีวิตวัยทำงาน



ประเด็นที่สอง คือ เรื่องการทำงาน
“การทำงานคือการพิสูจน์คุณภาพของคนว่าคนคนนั้นมีคุณภาพแค่ไหน” คุณภาพมากแค่ไหนวัดกันอย่างไร ง่ายๆ เลย ก็แค่วัดว่า ผลของงานที่ทำสัมฤทธิ์ออกมา มันเกิดคุณค่าหรือประโยชน์แก่คนอื่นมากแค่ไหน นั่นแหละคือคุณภาพ

จะเห็นว่าตอนเรียนเราไม่วัดผลการเรียนแบบนี้เลย การเรียนเป็นอะไรที่ง่ายสอบไม่ผ่านก็ลงเรียนใหม่ แต่ถ้าทำงานแล้วทำไม่ผ่าน จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เสียเวลา เสียเงิน เสียใจ ถูกเจ้านายด่า เพื่อนร่วมงานขาดความเชื่อถือ ทั้งหมดนี้คือโลกของความจริงโลกที่แสนเจ็บปวดเมื่อทำผิดพลาดขึ้นมา

ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นโลกที่หอมหวานเมื่อเราทำงานสำเร็จขึ้นมา เกิดคุณค่าต่อผู้อื่นในวงกว้าง สังเกตุดีๆ ชีวิตในช่วงกำลังเรียนคือช่วง “อยู่ในโลกของจินตนาการ” แต่ชีวิตในช่วงทำงานมันคือ “โลกแห่งความจริง”

คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งหลายเขาเชื่อว่า ถึงแม้เรียนจบจากช่วงชีวิตวัยเรียนแล้วเขาหาได้คิดว่าเขาต้องหยุดเรียนรู้อยู่แค่นั้นไม่ แต่กลับกลายเป็นว่าพอจบการเรียนในช่วงวัยเรียน จะต้องศึกษาแบบจริงจัง ต่อในระดับที่สูงขึ้นไปอีกคือระดับมหาวิทยาลัยชีวิต ซึ่งจะต้องเรียนรู้ทุกลมหายใจ เพราะมันจะมีผลได้ ผลเสีย

ในทุกครั้งที่ลงมือทำอะไรก็ตาม จะต้องศึกษาไปจนวันตายในมหาวิทยาลัยชีวิตแห่งนี้ ส่วนคนที่ชีวิตล้มเหลวก็มีสาเหตุเพียงสาเหตุเดียวก็คือ ไม่เรียนรู้ที่จะแก้ไขในสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง มันก็ผิดซ้ำๆ ซากๆ จนหาคุณภาพไม่ได้และสิ้นความน่าเชื่อถือในที่สุด และสุดท้ายก็คือ ล้มเหลว

 

แหล่งที่มา: khonkan.com

51531


ยืมเงินเขาแล้วคืนบ้างนะ เพราะว่าบางที คนที่ให้ยืมเขาก็ลำบาก
หากคุณเคยให้เพื่อน หรือใครสักคนยืมเงิน เชื่อว่าคงจะเข้าใจลึกซึ้ง

ถึงความหมายของประโยคที่ว่า ถ้าไม่อยากเสียเพื่อน อย่าให้เพื่อนยืมเงิน

ตอนมายืมเรานั้นสุดเศร้า เล่าความลำบากของตัวเอง

เเต่เมื่อถึงกำหนดไม่ยอมคืน บางคนต้องไปทวงด้วยตัวเอง แต่ก็ยังไม่ได้คืน

ต้องเสียเพื่อน เพราะเงินไม่เท่าไหร่ มาหลายคนแล้ว แม้เราจะทำอะไรเขาไม่ได้

คุณ ดังตฤณ หรือ ศรันย์ ไมตรีเวช



นักคิดนักเขียน แนวธรรมะ ล่าสุดเขียนในหัวข้อ

ยืมเงินแล้วไม่คืน จะได้รับผลอย่างไร โดยสรุปได้ว่า

ผลกรรรม ของการยืมเงินของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

เพราะจะแปรไป ตามเจตนาของผู้ยืม บางคนยืมแล้วเจตนาจะคืน

แต่มีเหตุให้ไม่สามารถคืนได้ ผลกรรรมย่อมแตกต่างจาก

ผู้ที่ยืมและมีเจตนาว่าจะไม่คืน หรือบอกผลัดไปเรื่อยๆ

ทำให้ผู้ให้ยืมร้อนใจ เป็นกรรรมทางใจ

อยู่ที่จะเลือก ต่อเวรหรือหยุดเวร แม้ในทางโลกจะเหมือนเราเสียเงินให้เขาฟรีๆ

แต่ทางธรรมคือ เรายกหนี้กรรรมให้เขาไปแบกแทน

ให้ลองย้อนตั้งคำถามกับตนดูว่า สมควรจะโกรธ นี้อยู่หรือไม่?

โดยเนื้อหาของบทความฉบับเต็มมีดังนี้

ยืมเงินแล้วไม่คืน ผลอาจไม่เหมือนกัน

ต้องดูที่ตัวกรรรมของแต่ละคน เมื่อรู้ว่ากรรรมเป็นอย่างไร

ก็จะพออนุมานถูกว่า ผลกรรรมน่าจะประมาณไหน

รูปแบบของกรรรม แปรไปตามเจตนา

รวมทั้งความสามารถ ที่จะทำให้สำเร็จตามเจตนาด้วย

บางคนยืมด้วยความตั้งใจคืน อาจมีข้อสัญญาชัดเจนว่า

จะคืนเมื่อใด ให้หรือไม่ให้ดอกเบี้ย แล้วคืนได้ตามนั้น

พร้อมของแถมตามข้อตกลง ผลที่เกิดขึ้นทันที

คือความผูกพันในทางดี เป็นที่น่าเชื่อถือสำหรับกันและกัน

ฝ่ายให้ ถือว่าได้บุญที่ให้โอกาส

ฝ่ายรับ ถือว่าได้บุญที่ได้ทำตามที่พูด

มีความสุข มีความเป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทั้งคู่

บางคนยืมด้วยการตั้งใจคืน เสร็จแล้วคืนไม่ได้ ชนิดสุดวิสัย

อย่างนี้ไม่ได้ตั้งใจโกง ไม่ได้ผิดศีลข้อ 2

แต่ผลที่เกิดขึ้นทันทีในชาติปัจจุบัน

คือ ความทรมานใจ การขาดความนับถือตัวเอง

และการไม่เป็นที่น่าเชื่อถือของคนอื่น

ส่วนผลในชาติถัดไปก็พอสมน้ำสมเนื้อ

เช่นที่ให้เงินใครยืมแล้วไม่ได้คืน



เพราะเหตุสุดวิสัยของลูกหนี้ เป็นต้น

บางคนยืมด้วยความตั้งใจเรื่อยๆ มาเรียงๆ

ไม่ฟันธง ไม่แน่ใจว่าจะคืนเมื่อไร

คิดเผื่อไว้แค่แผ่วๆ ว่า เดี๋ยวมีมากๆ ค่อยให้

แบบนี้เหมือนก้ำกึ่ง เพราะทำไปๆ มีสิทธิ์พลิกจาก เดี๋ยวจะคืน

เป็น ไม่คืนดีกว่า เอาได้ง่ายๆ ถึงจุดหนึ่งคนพวกนี้

จะลืมความสัมพันธ์เก่าๆ หมด พอเห็นตัวเลขในบัญชีที่คืนได้

แต่เกิดความเสียดาย ความตระหนี่เข้าครอบงำจิตใจ

รู้สึกขึ้นมาว่าอยู่ในบัญชีกรู แปลว่าเงินกรู

เรื่องอะไรจะให้มันหายไปอยู่ในมือคนอื่น



ความสำคัญมั่นหมายว่า ของกรู ทั้งๆ ที่ไม่ใช่นั่นแหละ

คือมุขเด็ด ที่กิเลสสบงการ ให้ก่อบาปกันดื้อๆ

ผลทันทีคือมีจิตอ่อนแอ คิดน้อยๆ

อยู่บนเส้นทางของคนเหลวไหล ข้างหน้าจึงสมควรกับชะตา

ที่ดูเหลวไหลไร้เหตุผล วันหนึ่งเหมือนมีทรัพย์ที่ยั่งยืน

อีกวันกลับ มลายหายไป ราวกับความฝัน เป็นต้น


เรียบเรียงโดย me-panya

ขอบตุณบทความดีๆจาก https://me-panya.com/?p=4168

51532



สวัสดีคุณเกษตรกรทุกท่าน หลายคนอาจกำลังอาหารอะไรทำว่างๆ แล้วได้เงิน วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ทุกท่านไปรู้จักกับวิธีการ“เพาะเห็ดปลวก” บอกเลยว่าทำง่ายมากใครๆ ก็สามารถทำได้แถมยังเอาไปขายได้กำไรงามอีกต่างหาก

โดยธรรมชาติแล้วเห็ตปลวกที่เติบโตได้ดีจะต้องมีความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะ โดยวันนี้เอาเราจะพาเพื่อนๆ ไปทำที่ละขั้นตอนเลย ไม่ยากอย่างที่คิดไปชมกันเลยค่ะ

วิธีเพาะเห็ดปลวก หรือเห็ดโคน

“เห็ดปลวก”  เป็นเห็ดโคนที่เติบโตได้ดีในสภาพธรรมชาติ ความชื้นและอุณหภูมิที่พอเหมาะ เนื่องจากจอมปลวกเป็นแหล่งที่มีความชุ่มชื้นที่เหมาะสม

เมื่อฝนตกทำให้ปลวกทำการอพยพออกจากรังเดิม ก็จะปรากฎตุ่มดอกเห็ดเล็กๆ ทำให้เห็ดที่โตจากจอมปลวกนั้น เป็นดอกเห็ดที่มีคุณภาพ ความชุ่มชื้นสูง

โดยปกติแล้ว เห็นโคน ค่อนข้างหายาก และออกผลผลิตให้ทานปีละครั้ง ทำให้มีราคาแพง มีรสชาติหวานอร่อยกว่าเห็ดอื่นๆ ปรุงง่ายเพียงต้มกับเกลือก็ได้น้ำต้มเห็ดรสหวานตามธรรมชาติ นอกจากนำไปต้มกับน้ำเกลือแล้วเราอาจนำเห็ดโคนไปประกอบอาหารที่หลากหลาย


เตรียมส่วนประกอบ ดังนี้

1. ข้าวเจ้าหุงสุกแล้ว 1 กก.

2. จาวปลวก (รังปลวก) เท่ากำปั้น 1 จาว

3. น้ำ 20 ลิตร



วิธีทำ

1. ผสมข้าวสุกกับจาวปลวกคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้วหมักใส่น้ำเปล่า 20 ลิตร ทิ้งไว้ในที่ร่มประมาณ 7-10 วัน

2. เมื่อครบกำหนดตามขั้นตอนแรกแล้ว จะปรากฎเห็นผิวน้ำที่หมักเป็นลักษณะขึ้นฝ้าสีขาว ให้นำไปราดลงตรงจอมปลวกหรือใกล้ๆ จอมปลวก (ใส่บัวรดเลยครับ) คุมด้วยฟางหรือเศษหญ้าแห้ง รดน้ำให้ชุ่มเสมอ ทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 วัน เห็ดจะเริ่มโผล่ออกมาให้เก็บ


ตลอดปี ยิ่งรดโดนตัวปลวกเลยยิ่งดีเพราะตัวปลวกจะนำเชื้อเข้าสู่รังและกระจายเชื้อในรังทั้งจอมปลวกออกตลอดทั้งปีถ้ารดน้ำให้ความชื้น

นิดหนึ่งครับ ขั้นตอนทั้งหมด สิ่งสำคัญมี 3 อย่างครับ เป็นขั้นตอนการเตรียมหัวเชื้อ

1. จาวปลวก (รังปลวกใหญ่)

2. ข้าวจ้าวหุงสุก

3. น้ำสะอาดที่ไม่

มีสารคลอรีน (คลอรีนจะเป็นตัวทำลายเชื่อที่เราเพาะเลี้ยง) ถ้าจะเอาน้ำประปาทำต้องเปิดน้ำทิ้งไว้ในถัง 18-20 ชั่วโมง เพื่อให้สารคลอรีนใน น้ำประปาละเหย ออกก่อนครับ


การเพราะเห็ดโคนหรือเห็ดปลวก ในรูปแปลงเพราะหรือแปลงปลูก ยังไม่สามารถเพราะได้ แต่สูตรนี้เป็น สูตรการทำน้ำหมักอีกหนึ่งสูตรจากจาวปลวก(รังปลวก)แล้วเจ้าของสูตร ได้ทดลองเอาน้ำหมักที่ได้ ลองไปรดที่จอมปลวก(โพนปลวก)แล้วเอาหญ้าแห้งปกทิ้งไว้

เวลาผ่านไป 7-14 วัน ได้ไปเปิดฟาง(หญ้าแห้ง) ออกเจอเห็ดปลวกเกิดขึ้นมา

ประโยชน์และสรรพคุณของเห็ดโคน

– ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงมีพละกำลัง

– ช่วยทำให้ร่างกายเจริญอาหาร

– แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือเวียนศีรษะ

– ช่วยให้เสมหะเหนียวๆ ที่ติดอยู่ในลำคอละลายออกมาได้

– ช่วยบรรเทาอาการไอเรื้อรัง

– ช่วยยับยั้งเชื้อโรคอย่างไทฟอยด์ หรือไข้รากสาดน้อย ซึ่งเป็นแบคทีเรียร้ายไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย

– ทำให้ระบบการทำงานของกระเพาะอาหารสามารถย่อยได้ดี



ซึ่งจะเห็นได้ว่าเห็ดโคนนี้มีคุณค่ามากมายเลยทีเดียว และที่สำคัญสำหรับรสชาตินั้นยังจัดว่าหวานและอร่อยมากกว่าเห็ดชนิดอื่นๆ อีกด้วย

แต่สามารถหารับประทานกันได้เพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้นในช่วงฤดูฝน และด้วยความที่ป่าธรรมชาติที่ค่อยๆ ลดลงไปในปัจจุบัน ทำให้เห็ดโคนเริ่มกลายเป็นของหายากและมีราคาแพง



ขอบคุณที่มา : www.item2day.com/วิธีเพาะเชื้อเห็ดปลวก-ห.html

51533


ต่อให้ยากจนแค่ไหน ก็อย่าโกงคนอื่น

ต่อให้จน เป็นหนี้ก็ต้องหาทางจ่ายคืน

ต่อให้รวย ก็อย่าได้ดูถูกคนอื่น

ต่อให้ลำบาก ก็ต้องเป็นคนดี

ต่อให้ทุกข์ ก็อย่าทิ้งคุณธรรม

ต่อให้ใครหลอกใช้ รู้อยู่แก่ใจก็พอ

ต่อให้ใครดูแคลน ไม่จำเป็นต้องโกรธ

ต่อคนที่มีพระคุณ อย่าเนรคุณท่าน

ต่อคนที่เคารพนับถือ ยกย่องอยู่ในใจ

อยู่กับมิตร จริงใจให้กันมากหน่อย

อยู่กับเพื่อนร่วมงาน ลดความอิจฉาลงบ้าง

อยู่กับเจ้านาย เพิ่มความเคารพ ลดการประจบสอพลอ

อยู่กับลูกน้อง เพิ่มการชี้แนะ แทนคำด่าทอ

ยามปกติต้องรู้อดทนและมีความจริงใจ

เมื่อใดที่เจออุปสรรคจึงมีคนอยากยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ

ทิ้งอะไรก็ทิ้งได้ อย่าทิ้งมโนธรรม

ทิ้งอะไรก็ทิ้งได้ อย่าทิ้งความมุ่งมั่น

ต่อให้จน ก็อย่าเป็นมิจฉาชีพ

ต่อให้ยาก ก็อย่าขายเพื่อน

ต่อให้ทุกข์ ก็อย่าทำผิดกฏหมาย

ต่อให้เหนื่อย ก็อย่าปัดภาระหน้าที่

มีวาสนาอย่าเสพสิ้น หมดวาสนา ทุกข์เกิด

มีอำนาจอย่าใช้หมด หมดอำนาจจะถูกเอาคืน

วาสนาคงอยู่เพราะรู้ถนอมรักษา อำนาจคงอยู่เพราะรู้อ่อนน้อม

อำนาจและวาสนาในโลก เกิดขึ้นได้กับทุกคน

แต่ใช่ว่าทุกคนจะรู้รักษา เกิดง่ายคงไว้ยาก หากสิ้นความดี!

เป็นคนได้เพราะใจสูง อย่าทำอะไรที่ต้องละอายแก่ใจ

ตอนนี้ไม่ละอาย วันหนึ่งจะรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิต

ขอขอบคุณที่มาจาก : นุสนธิ์บุคส์

51534
ลูกๆรีบไปทำ !ถ้าอยากให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง 7 วิธีใช้หนี้บุญคุณพ่อแม่ ที่ลูกทุกคนควรทำ



รูปจาก http://www.gangbeauty.com/topic/120207



วิธีใช้หนี้บุญคุณพ่อแม่ ความจริงแล้วทำได้ไม่ยากเลยค่ะ แค่หมั่นสร้างความดีให้กับตัวเอง โบราณท่านว่า ร่างกายเรานั้น พ่อให้หัวใจ แม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองมาอยู่ในตัว ในบั้นปลายชีวิตหากเรามีครอบครัว ก็คงอยากให้ลูก



รูปจาก http://www.gangbeauty.com/topic/120207

หลานเรามาดูแลเราในยามแก่เฒ่า แต่ถ้าหากว่าในตอนนี้คุณยังไม่ดูแลพ่อแม่ บางคนถึงขั้นรู้สึกว่ารังเกียจพ่อแม่ด้วยซ้ำ อย่างนี้เป็นการสร้างเวรกรรมกันต่อไปไม่มีสิ้นสุด วันนี้เลยอยากมา

แนะนำ วิธีใช้หนี้บุญคุณพ่อแม่ เพื่อทดแทนท่านในชาตินี้กันค่ะ
1. กราบเท้าพ่อและแม่ ก่อนออกจากบ้าน 3 ครั้งเป็นประจำ(ในกรณีที่อยู่ร่วมบ้านเดียวกัน หากไม่ได้อยู่ด้วยกันกราบรูปท่านก่อนออกจากบ้านแทนก็ได้) เนื่องจากพ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก พ่อแม่เป็นครูคนแรกของลูก

รูปจาก http://www.gangbeauty.com/topic/120207

และที่สำคัญอย่ายืนค้ำหัวคุยกับท่าน ให้อยู่ในระดับที่ต่ำลงมานิด เพื่อแสดงถึงความเคารพท่าน

2. ทำบุญด้วยการเจริญกรรมฐาน แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน ในกรณีที่พ่อแม่ได้ล่วงลับไปแล้ว การทำเช่นนี้ถือเป็นการได้บุญมากที่สุดทั้งฝ่ายผู้ให้และผู้รับ
3. นำธูปเทียนแพ กราบขอขมาลาโทษ ขออโหสิกรรม และล้างเท้าท่านในทุกครั้งที่มีโอกาส อย่างเช่นวันสำคัญต่างๆ หรือวันที่คุณรู้สึกเหนื่อย ท้อ ต้องเจอกับอุปสรรคต่างๆ พรจากท่านจะช่วยให้คุณผ่านเรื่องราวร้ายๆ

ไปได้



4. อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่ เพราะเพียงแค่คิดคุณก็จะทำมาหากินไม่ขึ้นแล้ว หากมีพลั้งพลาดไปแล้ว หาทางแก้ด้วยการไปขอขมาแล้วเจริญกรรมฐาน จะช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นได้

5. อย่าเถียงพ่อแม่ เพราะชีวิตจะไม่ก้าวหน้า ดังคำโบราณที่เคยกล่าวไว้ว่า " คนมีบุญวาสนาจะกตัญญูกับพ่อแม่ คนเถียงพ่อแม่เอาดีไม่ได้ และคนที่ไม่พูดกับพ่อแม่ นั่งกรรมฐานร้อยปีก็ไม่ช่วยอะไร "

6. วิธีการขออโหสิกรรม ให้เตรียมน้ำโรยดอกมะลิไปหนึ่งขัน แล้วพูดว่า "กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โย โทโส อันว่าโทษใดความผิดอันใด ที่ข้าพเจ้าพลั้งเผลอสติไป ด้วยกายก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขอ

ใหคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย คุณพี่ คุณน้อง อโหสิกรรมให้ด้วย" หลังจากนั้นราดน้ำรดมือ รดเท้า
7. เมื่อแยกย้ายไปมีครอบครัว อย่าลืมท่าน!! มีเวลาว่างกลับมาเยี่ยม มาทำอาหารทานข้าวร่วมกัน เมื่อท่านพูดสอน ตักเตือน ให้รับฟังอย่างตั้งใจ

" พ่อแม่ เป็นพระอรหันต์ของลูก ไม่ต้องตระเวนหาพระวัดดัง บริจาคข้าวของให้สิ้นเปลือง

แค่หันมาดูแลพ่อแม่ในยามแก่เฒ่า เพียงเท่านี้ก็ถือว่าคุณได้ชดใช้หนี้บุญคุณพ่อแม่แล้ว "


ขอบคุณบทความดีๆจาก : http://www.gangbeauty.com

51535
อาชีพเกษตรกร หลายคนมองว่าไม่น่าจะสร้างฐานะอะไรได้ เด็กรุ่นใหม่จึงทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิด มุ่งหน้าสู่เมืองใหญ่เป็นลูกจ้างเต็มขั้น…แต่ไม่ใช่กับ พงษ์พัฒน์ แก้วพะเนาว์ เกษตรกรรุ่นใหม่ จ.มหาสารคาม… เรียนจบมุ่งหน้ากลับบ้าน พร้อมปณิธาน ทำเกษตรทำไมจะรวยไม่ได้
   


“เรียนจบเกษตรฯ ม.แม่โจ้ เพื่อนหลายคนมองว่า ผมบ้า ไม่ยอมทำงานบริษัทเหมือนคนอื่น แต่มาเป็นเกษตรกร แถมยังมาทำกินในพื้นที่แล้ง อย่างทุ่งกุลาร้องไห้
ส่วนหนึ่งผมเชื่อมั่นว่า ประสบการณ์ที่เรียนมา และความรู้ที่ได้จากการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนกับอิสราเอล ประกอบกับการทำเกษตรแบบผสมผสานของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 จะช่วยพลิกฟื้นผืนดิน



แห่งนี้ให้กลับมาปลูกพืชได้ เลยใช้พื้นที่ 7 ไร่ที่มีลองปลูกพืชผัก”
พงษ์พัฒน์ ยังสมาร์ท ฟาร์มเมอร์ เกษตรกรสำนึกรักบ้านเกิดปี 2559 บอกว่า พื้นที่แถบนี้ส่วนใหญ่
แห้งแล้ง ดินเค็ม ปลูกอะไรไม่ได้
เลยใช้เทคโนโลยีที่เรียนรู้มาจากอิสราเอล พลิกฟื้นดินทรายมาปลูกพืช… เริ่มจากพลิกหน้าดิน นำแกลบดิบ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก อย่างละ 1 ส่วน ผสมกับดิน 2 ส่วน ราดด้วยน้ำหมักชีวภาพครึ่งลิตร คลุกเคล้าให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 1 เดือน
เมื่อดินเริ่มฟื้นสภาพ เดินระบบน้ำ โชคดีที่นี่มีบ่อน้ำบาดาลหมู่บ้านใช้ได้เลย ไม่เค็มเหมือนที่อื่น แต่ต้องใช้อย่างประหยัด
องค์ความรู้จากอิสราเอลปลูกพืชแบบใช้น้ำน้อยเลยถูกนำมาประยุกต์อีกครั้ง จนเกิดระบบน้ำขึ้น 3 ระบบระบบน้ำหยดให้ปุ๋ยพร้อมกับน้ำ ระบบน้ำพุ่ง และระบบให้น้ำแบบไอหมอก ใช้สเปรย์น้ำให้ความชื้น เพื่อไม่ให้พืชเครียดจากอุณหภูมิที่ร้อนกว่า 35 ํ C



“จากนั้นเริ่มปลูกพืชชนิดต่างๆ เลี้ยงไก่ หมู ขุดบ่อเลี้ยงปลา ตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่ไม่ปลูกไม้ผล หรือไม้ยืนต้น
เพราะดินขาดธาตุอาหารมานาน ไม่เพียงพอต่อไม้ยืนต้น ลองผิดลองถูกไม่นาน ได้สูตรสำเร็จ ปลูกพืชผักสวนครัวหลากชนิดแบบเก็บเกี่ยวได้ทั้งปี เรียกได้ว่ามีผลผลิตขายได้ทุกวัน”



การปลูกพืชวิธีนี้ นอกจากมีเงินหมุนจากผลผลิตตลอด 365 วันแล้ว ยังลดความเสี่ยงเรื่องโรคและแมลงได้เกือบ 100% โดยไม่ต้องพึ่งยาหรือสารเคมี



ด้วยเป็นคนไม่หยุดคิด ไม่หยุดทำ ประกอบกับการประยุกต์ใช้องค์ความรู้จากอิสราเอล ตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ของในหลวงรัชกาลที่ 9 วันนี้หนุ่มอีสานวัยเบญจเพสได้กลายเป็นเจ้าของพืชผักอินทรีย์ถึง 3 แบรนด์ ส่งขายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ



ได้พิสูจน์ให้เห็นเป็นเกษตรกรก็รวยได้…พื้นที่แค่ 1 ไร่ คิดเป็น ทำเป็น ทำจริง ได้เงินปีละกว่า 600,000 บาท.



ขอบคุณบทความดีๆจาก http://pagenews.net/

51536
มีคำโบราณ เคยกล่าวไว้ว่า “มีผู้สูงอายุอยู่ในบ้าน…เหมือนมีสิ่งล้ำค่า”

บ่อยครั้งที่เรามักจะใส่ใจคนนอกบ้าน มากกว่าคนในบ้าน

ทั้งให้ความสำคัญ และใช้เวลาอยู่กับคนนอกบ้านมากกว่า

แต่กับคนในบ้าน กลับ “ละเลย” ความรู้สึกเขาไปซะอย่างงั้น

อาจจะเป็นเพราะ “ความเคยชิน” ที่คิดว่า เจอกันอยู่ทุกวัน

เดี๋ยวค่อยดูแล จึงทำให้เราเลือกที่จะเมินเฉยต่อคนในบ้าน

ไม่ต้องรีบร้อน ที่จะทำอะไรให้ท่าน เพราะกลับมาบ้านก็ยังต้องเจอกันอยู่

แต่คุณกำลัง…ลืมอะไรไปอยู่หรือเปล่า

“พ่อแม่” ไม่ได้มีเวลาอยู่กับเรา หรือรอเราไปได้…ตลอดชีวิต

ดังนั้น จงให้ “ความสำคัญ” ท่านเป็นอันดับแรก…ก่อนเสมอ



อย่าเอาของโปรดมาให้กิน ในวันที่พ่อแม่กินไม่ได้

อย่าพาไปเที่ยว ในวันที่พ่อแม่ไม่มีเรี่ยวแรงจะเดิน

อย่าขอโทษพ่อแม่ ในวันที่สายเกินไปแล้ว

อย่าอยากจับมือ ในวันที่พ่อแม่ ไม่รู้สึกแล้ว

อย่าบอกรัก บอกคิดถึง ในวันที่พ่อแม่ไม่ได้ยินแล้ว

อย่าอยากกอดพ่อแม่ ในวันที่เหลือเพียงแต่รูปท่านให้กอด

อย่ารอกราบเท้าพ่อแม่ ในวันสุดท้ายของชีวิตท่าน

พ่อแม่ สามารถรอลูกได้เสมอ แต่ชีวิตท่านอยู่ไม่ได้ตลอดไป

อย่ามองว่า…พ่อแม่ “เป็นเพียงคนเฝ้าบ้าน”

เมื่อก่อน ตอนที่ยังพูดไม่เป็น ใครกันที่เป็นคนสอนให้พูดได้

เมื่อก่อน ตอนที่ยังเดินไม่เป็น ใครกันที่สอนให้เดินได้

เมื่อก่อน ตอนที่ยังกินข้าวเองไม่เป็น ใครกันที่ป้อนข้าวป้อนน้ำ

เมื่อก่อน ตอนที่อาบน้ำเองไม่เป็น ใครกันที่ล้างให้ โดยไม่นึก รั ง เ กี ย จ



“ชีวิตทุกคนมีค่า เพราะเวลานั้นมีจำกัด”

บนโลกใบนี้มีความไม่เที่ยงอยู่มาก

ถ้ารู้ว่าเวลามีไม่มาก ก็จงทำสิ่งดีๆให้กันมากๆ

อย่าไป ท ะ เ ล า ะ หงุดหงิดใส่กัน หรือมัวแต่มีอคติ

เพราะมันเสียเวลาที่มีค่าไปโดยเปล่าประโยชน์

หากยังมี “โอกาส” ได้ดูแลท่านอยู่ ก็จงรีบทำซะ



ขอบคุณบทความดีๆจาก http://bitcoretech.com/

51537
เรื่องจริงที่ผู้หญิงต้องอ่านรักตัวเองให้มากอย่าฝากทั้งชีวิตไว้กับสามี



เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่งความรักของหญิงสาวชาวจีนที่มีจุดเริ่มต้นที่สวยงามและจุดจบจะเป็นอย่างไรนั้นไปดูกัน
ฝ่ายชายมีเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นผู้หญิงมีเงินหนึ่งแสนก่อนที่จะแต่งงานผู้ชายนำเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นไปดาวน์บ้านผู้หญิงนำเงินหนึ่งแสนไปตกแต่งบ้านและซื้อเครื่องใช้ต่างๆหลังแต่งงาน



ผู้ชายผ่อนส่งค่างวดบ้านสามพันหยวนทุกเดือนเงินเดือนคงเหลือหนึ่งพันหยวนผู้หญิงเงินเดือนเดือนละสามพันหยวนชายหญิงทั้งสองใช้ร่วมกัน

สามปีต่อมาผู้หญิงตั้งครรค์จากนั้นคลอดลูกออกมาผู้ชายได้เลื่อนตำแหน่งในหน้าที่การงานเงินเดือนเพิ่มเป็นเจ็ดพันหยวนยามนี้เด็กต้องการคนดูแลหากจ้างพี่เลี้ยงต้องจ่ายเดือนละสองพันหยวน

ชายและหญิงทั้งสองปรึกษาหารือกันตกลงตัดสินใจให้ผู้หญิงลาออกจากงานเพื่ออยู่ดูแลลูกเช่นนี้แล้วผู้หญิงจึงกลายเป็นแม่บ้านเต็มตัว

สิบปีต่อมาผู้ชายประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานรัศมีเปล่งปลั่งผู้หญิงคลุกคลีอยู่กับลูกสามีบ้านทุกๆวันราศีหม่นหมองยามนี้ผู้ชายรู้สึกว่าภรรยาตนไม่สามารถพาเข้าสังคมอีกแล้ว

สิ่งยั่วยวนภายนอกก็ช่างร้อนแรงเย้ายวนใจสุดท้ายเลยมีภรรยาน้อยหลังจากภรรยารู้เรื่องเข้าทะเลาะวิวาทสุดท้ายเศร้าเสียใจผู้ชายและผู้หญิงเตรียมตัวหย่าตามคำอธิบายในตัวบทกฎหมายว่าด้วยการสมรสบ้านผู้ชายได้ซื้อก่อนแต่งงาน



ผู้หญิงไม่มีสิทธิ์ผู้หญิงไม่ยอมบอกว่าพวกเราทั้งสองช่วยกันผ่อนค่างวดทนายถามว่าเธอมีหลักฐานที่ร่วมกันผ่อนส่งค่างวดหรือไม่ผู้หญิงตอบว่าไม่มีทุกเดือนจะหักจากบัญชีเงินเดือนของผู้ชายโดยตรง

ผู้หญิงบอกอีกว่าลูกฉันเป็นคนคลอดเองฉันเลี้ยงดูจนเติบใหญ่มากับมือลูกต้องตกเป็นของฉันทนายพูดว่าลูกจะตกเป็นของใครเราจะดูว่าใครมีความสามารถที่จะเอื้อประโยชน์ให้แก่เด็กมากที่สุดเธอไม่มีงานทำไม่มีรายได้ไม่มีบ้านย่อมไม่เป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของเด็กทางศาลจะตัดสินให้ตกเป็นของผู้ชาย

ยามนี้ผู้หญิงไม่มีบ้านไม่มีงานไม่มีเงินไม่มีลูกเธอสิ้นหวังแล้วโลกของเธอล่มสลายไปแล้วส่วนผู้ชายเริ่มต้นชีวิตใหม่ของของเขาผู้หญิงเธอยังกล้าที่จะนำเอาความสุขของทั้งชีวิตฝากฝังไว้กับคนอื่นอีกหรือไม่บนโลกใบนี้ไม่มีใครให้คุณพึ่งพิงได้ตลอดชีวิตแม้แต่เงาของเธอเองก็จะห่างหายไปจากเธอในความมืด

ใช่แล้วแรกเริ่มผู้ชายรักเธอมากแต่ผู้หญิงโดยส่วนมากแล้วมักจะละเลยสิ่งสำคัญที่สุดไปนั่นก็คือคนขอเพียงยังมีชีวิตอยู่ล้วนที่จะแปรเปลี่ยนไปได้ทุกเมื่อทุกเวลาผู้หญิงที่มีอาชีพมี

ความอิสระของตนเองจึงจะดำรงชีวิตได้ตามแบบฉบับตัวตนที่แท้จริงของตนเองจึงสามารถสร้างความมั่นคงในการใช้ชีวิตคู่เพราะทุกๆคน



ล้วนชื่นชอบชื่นชมสิ่งสวยๆงามๆใครจะยอมทนอยู่กับคนที่ไม่แต่งหน้าแต่งตัวไม่พัฒนาตนเองเกียจคร้านซังยังกะฅายอีกทั้งเป็นผู้หญิงที่เสื่อมโทรมแล้วได้ทุกวันผู้หญิงเอ๋ยดีกับตัวเอง
ทะนุถนอมตัวเองให้มากหน่อยเถิดต้องสูงส่งถึงจะล้ำค่าคิดอยากจะเป็นผู้หญิงที่แกร่งรูปลักษณ์ของผู้หญิงเองเป็นตัวตัดสินกำหนดว่าสำเร็จหรือล้มเหลว

ขอบคุณบทความดีๆจาก https://deejunglife.com/

51538


สูตรเลี้ยงปลาซิวในบ่อพลาสติก เลี้ยงง่าย ใช้พื้นที่ไม่มาก ได้ผลดีมาก
 


ปลาซิว คือหนึ่งปลาเศรษฐกิจที่ขายได้ราคาดี มีเกษตรกรจำนวนไม่น้อยที่เลี้ยงปลาซิวเพื่อการประกอบอาชีพ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ปลาซิวนั้น ได้ถูกนำมาแปรรูปเป็นอาหารหลากหลายชนิด และก็มีคนนิยมทานกันอย่างแพร่หลายทั่วประเทศ

 



 

ขั้นตอนการเลี้ยงปลาซิว
1. เตรียมบ่อเลี้ยงขนาดบ่อ 2 x 4 เมตร ลึก 1 เมตร (เป็นบ่อปูนหรือบ่อพลาสติกก็ได้)

2. หลังจากเตรียมบ่อแล้วให้ทำการเปิด น้ำเข้าบ่อสูง 80 เซนติเมตร และนำท่อนกล้วยแช่นาน 1 สัปดาห์

3. นำปลาซิวลงบ่อเลี้ยงประมาณ 10 กิโลกรัม

4. อาหารให้รำอ่อน วันละ 1 ครั้ง

5. ระบบการเปลี่ยนน้ำให้ทำการเปลี่ยนน้ำโดย การเปิดก๊อกน้ำใส่บ่อและทำตัวจุกน้ำออกจากบ่อที่ก้นบ่อด้วย และนำมุ้งเขียวกันไว้ไม่ให้ปลาหลุ ด (ให้ทำการเปลี่ยนน้ำปีละ 1 ครั้ง)

6.อาหารเสริมสามารถนำป ล ว ก มา สั บ ให้ละเอียดเพื่อนำไปเป็นอาหารเสริมเพิ่มโปรตีนให้ปลาซิวได้ เลี้ยงไว้ 2-3 เดือน สามารถใช้ได้เลย

 



 

สูตรเลี้ยงปลาซิว
1. ส่วนผสม
2. ยอดผักบุ้ง หน่อไม้ หน่อกล้วย รวมกัน 10 กิโลกรัม
3. กากน้ำตาล 10 ลิตร
4. ฟอสเฟต 10 กก.
5. รำละเอียด 2.5 กก.
6. เกลือ 2 ขีด
7. น้ำ 70 ลิตร

 



วิธีทำ
น้ำส่วนผสมทั้งมาบดรวมกัน หมักไว้ 15 วันเป็นอันว่าเสร็จ พร้อมนำไปใช้ให้ปลาได้เลย

ขอบคุณบทความเเละรูปจาก https://jo-workman.com/2020/01/07/sew/

51539



การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันที่มีการทำงาน การเรียนการใช้ชีวิตที่มีความเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา จนทำให้ได้เห็นภาพความวุ่นวายของคนในเมืองในบางช่วงเวลา ซึ่งเหล่านี้คือส่วนหนึ่งของการตามหาประสบการความสำเร็จในชีวิต ที่ก็ต่างคนต่างตามหากันในรูปแบบต่างๆ อยู่ที่ว่าใครจะหากันแบบไหน และมีรูปแบบของการหาเงินอย่างไรจึงจะสามารถทำให้ได้รับความมุ่งหวังตามเป้าหมายที่ตนเองได้คิดเอาไว้




ในบางครั้งที่เราเห็นคนนั้นคนนี้สำเร็จ แต่ทำไม่เราไม่เป็นแบบเขาบ้าง มันก็ทำให้เรานั้นคิดในใจเลยว่า ทำไมเราถึงไม่ประสบความสำเร็จแบบเขาบ้าง คิดไปก็รู้สึกท้อใจ สงสัยเขามีบุญ มีวาสนามากที่เขาสำเร็จ และในวันนี้เราจะมาดูกันว่า ทั้ง 5 สาเหตุนี้เป็นแหล่งที่มาของความล้มเหลว จะมีอะไรกันบ้างนั้น เราไปดูพร้อมๆกันเลยค่ะ



1.ไม่มีใครได้ในสิ่งที่ต้องการ ทุกคนล้วนได้ในสิ่งที่คู่ควร
2.คนอื่นอาจลงแรงมากกว่าคุณ แต่เป็นเพราะคุณไม่ได้เห็นตอนที่เขาลงแรง
3.หากคุณไม่แก่งแย่งรอบกายคุณจะมากด้วยมิตรสหาย หากคุณมีกำลังจงช่วยคนอื่นที่ลำบากกว่า แบบนี้เรียกว่าสร้างบารมี



4.จงเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้บ้าง อย่าเอาแต่คิดจะเป็นผู้ได้อยู่ฝ่ายเดียว ทางเดินของคุณจะยิ่งมายิ่งกว้างขวาง แบบนี้ยิ่งเสริมบุญวาสนา
5.สิ่งของบางสิ่งนำความพอใจมาสู่คุณเพียงชั่ วขณะ แต่มันเติมเต็มชีวิตคุณไม่ได้ตลอดไปหรอก



ฉะนั้นเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเราต่างก็ชอบ เวลาที่ประสบผลสำเร็จ เราฉลองให้กับความสำเร็จ แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเราล้มเหลวถ้าเราแพ้ เราก็อาจจะทพอะไรหลายๆอย่าง แต่คงไม่ฉลองให้กับความล้มเหลวแน่นอน



การล้มเหลว จาก การทำผิดพลาด เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นกับเราหรือใครๆก็ได้ รวมถึงคนที่ประสบผลสำเร็จ คนเหล่านั้นต่างก็เคยล้มเหลวมาก่อน หากคุณหาเงินมาด้วยความຢากลำบาก เวลาใช้จ่ายคิดสักนิดก็ดีเหมือนกันนะคนที่สำเร็จ เขาซื้อของแพงๆหลังจาก รວยแล้วคนที่ล้มเหลว ซื้อแต่ของแพงทั้งๆที่ ยังลำบากอยู่คนที่สำเร็จ สร้างแต่กิจการไปตรงไหนก็มีสาขามีร้านตัวเอง หันไปทางไหนมีแต่รายได้
 


อย่างไรก็ตามหากเรามีความพຢาຢามตั้งใจในทุกๆสิ่งอย่างนั้น เราก็จะประสบผลสำเร็จเอง โดยที่เรานั้นไม่ต้องไปนั่งมองคนอื่นเขาประสบความสำเร็จเลย คนเรานั้นมีเวลาเท่ากัน แต่ขึ้นอยู่กับว่าเรานั้นจะจัดการเวลาอย่างไรให้ดีมากที่สุดเท่านั้นเอง

ขอขอบคุณข้อมูลข่าวจากhttps://www.angelmagazines.com/

51540


วันนี้เรามีเรื่องราวดีๆ ของคน คนหนึ่งถึงแม้การเวลาผ่านไป นานถึง32ปี ยังไม่ลืมที่สิ่งที่เพื่อนมอบให้ในวันนั้น 32 ปีที่แล้ว Sun Shengrong เด็กหนุ่มจากหมู่บ้าน Gangtou เมือง Wenxi เขต Qingtian มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ในวัย 14 ปีทำงานในร้านตัดผมที่พี่ชายเปิด ในเวลานั้น Zhang Aimin วัย 24 ปีเป็นลูกค้าประจำขอที่ร้าน นานวันเข้าก็คุ้นเคยกลายเป็นเพื่อนกับ Sun Shengrong ต่อมาร้านตัดผมปิดตัวลง Sun Shengrong จึงต้องไปรับจ้างทำงานไปทั่ว



วันหนึ่งขณะเดินอยู่ข้างถนนก็ได้พบกับ Zhang Aimin โดยบังเอิญ พอ Zhang Aimin รู้ว่า Sun Shengrong กำลังลำบาก ก็รับควักเงิน 1,000 หยวนที่เก็บมา 1 ปี (ประมาณ 4,600 บาท) ให้ Sun Shengrong ทันที เป็นเงินทุนเพื่อช่วยให้ Sun Shengrong เปิดร้านตัดผมอีกครั้ง พวกเขามักจะไปมาหาสู่ช่วยเหลือกัน บางครั้งก็ช่วยทำอาหารให้ สองคนสนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง


แต่เมื่อ Sun Shengrong ไปเกณฑ์ทหารก็ขาดการติดต่อกับ Zhang Aimin ไป หลังเกณฑ์ทหาร Sun Shengrong ก็เดินทางไปสเปน ทำงานสารพัดอย่าง ไม่ว่าจะเป็นพ่อครัว พนักงานเสิร์ฟ ขายของข้างถนนและอื่นๆ สุดท้ายหลังผ่านการพยายามทำงานหนักมานาน ฟ้าก็เมตตา Sun Shengrong กลายเป็นผู้นำชาวจีนโพ้นทะเลที่มีชื่อเสียงในสเปน ตอนนี้ประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่ใจของเขาก็ไม่เคยลืมผู้มีพระคุณอย่าง Zhang Aimin

เพื่อตามหา Zhang Aimin ผู้มีพระคุณ Sun Shengrong สอบถาม และขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐ ตามข้อมูล ภาพถ่าย และที่อยู่พบว่ามีคนที่ชื่อและนามสกุลเดียวกันกับ “Zhang Aimin” 140 คน แต่ในที่สุดก็พบคนที่ดูคล้ายที่สุด แต่พอไปตามที่อยู่กลับไม่พบใคร ระหว่างที่เขากำลังสิ้นหวัง ในที่สุดก็ได้ข่าวดี คุณตำรวจพบ Zhang Aimin ตัวจริง เพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนานได้กลับมาพบกันอีกครั้ง สองคนคุยกันทั้งคืนSun Shengrong ถึงได้รู้ว่า หลังแยกกัน Zhang Aimin ไปทำงานที่โรงงานเครื่องจักร แต่เนื่องจากบริษัทดำเนินไปได้ไม่ดี ปี 2011 จึงถูกเลิกจ้าง จากนั้นเขาก็ไปเปิดร้านค้าในเมือง Zhang Aimin เล่าว่า ตัวเองแม้ว่าจะไม่ใช่คนรวย แต่ฐานะทางเศรษฐกิจตอนนี้ก็พอมีพอกิน ตอนนั้นที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ Sun Shengrong ก็เพราะคิดว่าเขาเป็นน้องชายคนนึง

เพื่อตอบแทนบุญคุณของ Zhang Aimin ในตอนนั้น Sun Shengrong ตั้งใจจะมอบตึกแถวให้เขาสองหลัง นึกไม่ถึงว่าจะถูก Zhang Aimin ปฏิเสธ Sun Shengrong ก็เลยเปลี่ยนวิธี เขาเปิดโรงกลั่นไวน์ในซูโจวโดยลงทุนมากกว่า 10 ล้านหยวน (ประมาณ 46 ล้านบ้าน)โดยให้ร้านนั้นเป็นชื่อของ Zhang Aimin และให้เขาดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบ Zhang Aimin ที่ช่วยคนโดยไม่หวังผลตอบแทนหรือชื่อเสียงเล่าว่า “แม้ว่าโรงกลั่นไวน์จะเป็นชื่อผม แต่ในอนาคตสักวันหนึ่ง ผมก็จะคืนมันให้กับ Sun Shengrong” มิตรภาพที่จริงใจน่าตื้นตัน ประสบความสำเร็จแล้วก็ไม่ลืมผู้มีพระคุณ ช่างเป็นคนมีน้ำใจ เรื่องราวแบบนี้ทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้นมากมาย

ขอบคุณบทความดีๆจาก https://www.thaihothit.com/

หน้า: 1 ... 3434 3435 [3436] 3437