สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 5 วิธีเลือกสแตนเลส  (อ่าน 976 ครั้ง)

admin
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 51821
    • ดูรายละเอียด
5 วิธีเลือกสแตนเลส
« เมื่อ: มิถุนายน 13, 2020, 10:53:37 AM »
5 วิธีเลือกสแตนเลส

1. ในส่วนผสมหลักๆของสแตนเลส SUS 304 จะต้องประกอบด้วย โครเมี่ยม (Cr) 18% และนิเกิล (Ni) 8%+
หรือสังเกตุง่ายๆจากตัวย่อตามแท้งค์น้ำสแตนเลส คือ 18-8 นิเกิล ซึ่งเป็นมาตรฐาน และนิเกิลเป็นแร่ที่มีราคาสูงมาก
2. เมื่อนำสแตนเลสที่ผลิตจากจีนไปยิง SPECTROSCOPE ทดสอบด้วยเครื่อง Spectrometer
 เป็นเครื่องที่ใช้ทดสอบดูส่วนผสมของแร่ต่างๆ จะพบว่าสแตนเลสจากจีนที่ไม่มีคุณภาพนั้นมีส่วนผสมของ นิเกิล
 เพียง! 0.5-0.8% หรือประมาณ 10% เท่านั้นเอง ปัญหาต่างๆจึงตามมาถ้าหากสแตนเลสไม่ได้มาตรฐาน ดูแลรักษายาก
 ไม่คงทน ที่สำคัญไม่คุ้มค่ากับเงินที่สูญเสียไป
3. สแตนเลสที่มาจากจีนส่วนมากผู้ผลิตจะลดต้นทุนด้วยการผสม แร่แมงกานิส (Mn) เข้าไปแทน เพราะมีราคาถูก
  แร่นี้แพงกว่าเหล็กไม่มากจึงช่วยลดต้นทุนการผลิตลงได้ แต่ด้วยคุณสมบัติของแร่แมงกานิสนั้นแม่เหล็กจะดูดไม่ติดเหมือนกัน
  ทำให้ลูกค้าบางรายเชื่อในสิ่งที่ช่างประตูสแตนเลสบอกว่าคุณสมบัติของสแตนเลสจีนก็ได้มาตรฐานเหมือนๆกัน
  ซึ่งไม่ควรเชื่อจนกว่าคุณจะมั่นใจของแหล่งที่มาของสแตนเลส
4. ด้วยการที่ลดต้นทุนโดยผสมแร่แมงกานิส (Mn) ทำให้คุณสมบัติความคงทนต่อการกัดกร่อนนั้นต่ำมาก
  ซึ่งผลที่ตามมาคือประตูสแตนเลสของคุณนั้นอาจเกิดสนิมขึ้นภายในระยะเวลาอันรวดเร็วหลังจากการติดตั้งประตูสแตนเลส
  เมื่อโดนอากาศ โดนฝน, ฝนกรด, ฝุ่นละออง, สารเคมีบางชนิด ทำให้มีโอกาสการชำรุดเสียหายสูง อันตรายได้ไม่คุ้มเสีย
5 ความแตกต่างของสแตนเลสที่ไม่มีคุณภาพตามที่กล่าวมานั้น บางคนเกิดคำถามแล้วถ้าจะเปลี่ยนประตูบ้านเป็นประตูสแตนเลสล่ะ?
  ควรใช้สแตนเลสของอะไร? ราคาประตูสแตนเลสจะแพงมากไหม? ซึ่งในปัจจุบันถ้าเป็นช่างที่เชื่อถือได้
  เป็นช่างสแตนเลสคุณภาพนั้นจะใช้สแตนเลสเกรด304 ของไทย หรือไม่ก็ของไทย-เยอรมัน ซึ่งก็มีด้วยกันหลายยี่ห้อ







5 วิธีเลือกสแตนเลส

  1.  แข็งแรงทนทาน เครื่องครัวที่ทำจากสเตนเลสจะแข็งแรงทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ก็เพราะสเตนเลสเป็นโลหะชนิดหนึ่งที่มีความแข็ง
       แม้จะเป็นโลหะผสมแต่ก็มีส่วนประกอบหลักเป็นเหล็กกล้า จึงไม่บิ่น งอ ถูกกะเทาะ หรือแตกหักง่าย แม้ว่าจะถูกใช้งานบ่อย ๆ หรือทุกวันก็ตาม
   2. ทนต่อความชื้นไม่เกิดสนิม อย่างที่เราทราบกันดีว่าสเตนเลสนั้นเป็นโลหะผสมที่เกิดจากการนำเหล็กกล้ามาผสมกับโครเมียม นิเกิล ไทเทเนียม
       หรือโลหะอื่น ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้เหล็กต้านทานการเกิดสนิมได้ เนื่องจากงานครัวเป็นงานที่ต้องเจอกับความชื้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
       หากเลือกใช้อุปกรณ์เครื่องครัวที่ทำจากสเตนเลสก็จะทำให้หมดกังวลกับเรื่องสนิมไปได้เลย
  3.  ทนทานต่ออุณหภูมิและความเป็นกรดด่าง งานครัวเป็นงานที่จะต้องเจอกับอุณหภูมิที่แตกต่างทั้งร้อนและเย็น วัสดุบางอย่างไม่เหมาะนำมาใช้งานกับของร้อน
       และวัสดุบางอย่างก็ไม่เหมาะนำมาใช้งานกับของเย็น แต่เครื่องครัวสเตนเลสมีความทนทานต่อทั้งของร้อนและของเย็น นำมาใช้ในงานครัวได้อย่างไม่มีปัญหา
       นอกจากนั้นเครื่องครัวสเตนเลสยังทนทานต่อสภาวะความเป็นกรดและด่างได้เป็นอย่างดี กรดหรือด่างไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเครื่องครัวสเตนเลสได้เลย
  4. สวยงามแวววาว คุณสมบัติที่ถือเป็นจุดเด่นอีกข้อของสเตนเลสก็คือความมันวาว เมื่อนำมาผลิตเป็นเครื่องครัวสเตนเลสจึงให้ความสวยงามแวววาว ช่วยให้ห้องครัวดูดีมีระดับขึ้น
       หากต้องการเลือกซื้อเครื่องครัวสเตนเลสคุณภาพดี ทนทานมากกว่า และสวยงามแวววาวกว่า ให้ดูที่ค่าของนิกเกิลที่ผสม ถ้ายิ่งมากแสดงว่าเครื่องครัวสเตนเลสนั้นยิ่งมีคุณภาพดี
  5.  ดูแลรักษาง่าย เนื่องจากเครื่องครัวสเตนเลสมีความแข็งแรงทนทาน ไม่เกิดสนิมได้ง่าย ทนต่อความชื้น ทนความร้อนและเย็น และทนต่อความเป็นกรดด่าง
       การดูแลรักษาทำความสะอาดเครื่องครัวสเตนเลสจึงไม่ใช่เรื่องยาก สามารถใช้งานได้ตามปกติ แทบไม่ต้องระวังอะไรมากนัก เพียงแค่เช็ดทำความสะอาดฝุ่น
       หรือรอยนิ้วมือที่มาเกาะ สำหรับคราบไขมันหรือเศษอาหารก็ให้ใช้น้ำสบู่หรือผงซักฟอกเช็ดทำความสะอาด ตามด้วยผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดจนหมดจดเท่านั้น


5 วิธีเลือกสแตนเลส

1.  สแตนเลสเส้นกลมกลุ่มออสเทนนิติก (Austenitic Stainless Rod)

  สแตนเลสเส้นกลมกลุ่มออสเทนนิติก (Austenitic Stainless Rod) ลักษณะของโครงสร้างจะมีความยืดหยุ่นกว่าสแตนเลสกลุ่มอื่น โดยมีส่วนผสมของธาตุนิกเกิลหรือธาตุแมงกานีส ซึ่งให้คุณสมบัติพิเศษคือ ไม่เป็นสนิม ทนต่อการกัดกร่อนได้ดี เนื่องจากเป็นโลหะผสมเหล็กที่ไม่สามารถชุบแข็งได้และแม่เหล็กดูดไม่ติด จึงเป็นที่นิยมใช้ในงานประกอบและขึ้นรูปทั่วไป เช่น ทำประตูรั้ว ทำราวระเบียง ราวบันไดบ้านหรืออาคารต่างๆ เป็นต้น
stainless_rods02

2.  สแตนเลสเส้นกลมกลุ่มเฟอร์ริติก (Ferritic Stainless Rod)

สแตนเลสเส้นกลมกลุ่มเฟอร์ริติก (Ferritic Stainless Rod) มีลักษณะเป็นโครงสร้างเดียวกับเหล็กทั่วไป ซึ่งให้คุณสมบัติพิเศษคือ แม่เหล็กสามารถดูดติดได้ ทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี โดยจะขึ้นอยู่กับปริมาณของธาตุโครเมียมที่ผสม แต่ไม่สามารถทำการรีดให้แข็งและชุบแข็งได้ ทำให้มีโอกาสเกิดสนิมได้ง่ายกว่าสแตนเลสกลุ่มอื่น จึงนิยมนำมาใช้ทำเครื่องครัว อ่างล้างจาน ระบบท่อไอเสียยานยนต์ เป็นต้น
stainless_rods03

3. สแตนเลสเส้นกลมกลุ่มมาร์เทนซิติก (Martensitic Stainless Rod)

 สแตนเลสเส้นกลมกลุ่มมาร์เทนซิติก (Martensitic Stainless Rod) โครงสร้างของโลหะมีลักษณะคล้ายกับกลุ่มเฟอร์ริติก แต่ปริมาณธาตุคาร์บอนสูงกว่า ซึ่งให้คุณสมบัติพิเศษคือ สามารถนำไปชุบแข็งได้ ต้านทานต่อการสึกกร่อน และทนทานกว่าสแตนเลสกลุ่มออสเทนนิติกและเฟอร์ริติก จึงเหมาะนำมาใช้ผลิตเครื่องตัด เครื่องมือช่าง อุตสาหกรรมเครื่องบิน พัดลม กังหัน ตู้แช่ขนาดใหญ่ เป็นต้น
stainless_rods04

4. สแตนเลสเส้นกลมกลุ่มดูเพล็กซ์ (Duplex Stainless Rod)

  สแตนเลสเส้นกลมกลุ่มดูเพล็กซ์ (Duplex Stainless Rod) จะมีโครงสร้างผสมระหว่างออสเตนไนต์และเฟอร์ไรต์ ที่มีคุณสมบัติพิเศษคือ มีความแข็งแรง มีความเหนียวสูง และมีความทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี แต่จะมีราคาสูงกว่าสแตนเลสกลุ่มอื่นๆ จึงเหมาะสำหรับใช้กับงานเชื่อมและงานขึ้นรูป เช่น งานปั๊มก้นลึก ชิ้นส่วนอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เป็นต้น
stainless_rods05

5. สแตนเลสเส้นกลมกลุ่มเหล็กกล้าชุบแข็งแบบตกผลึก (Precipitation Hardening Steel Stainless Rod)

สแตนเลสเส้นกลมกลุ่มเหล็กกล้าชุบแข็งแบบตกผลึก (Precipitation Hardening Steel Stainless Rod) เป็นสแตนเลสที่ใช้การตกตะกอนของโลหะเพิ่มคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถแบ่งการตกตะกอนของโลหะได้ 3 รูปแบบ คือ แบบมาร์เทนซิติก, แบบกึ่งออสเทนนิติก และแบบออสเทนนิติก โดยแต่ละรูปแบบเพิ่มความแข็งแรงและความเหนียวได้ต่างกันออกไป สามารถทำการชุบแข็งได้ จึงเหมาะสำหรับทำแกนปั๊ม หัววาล์ว และชิ้นส่วนประกอบของเครื่องบิน เป็นต้น






[/size]
[/size]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 13, 2020, 10:55:20 AM โดย admin »