สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คนเจาะน้ำบาดาล รู้ได้อย่างไรว่าถึงชั้นบริเวณที่มีน้ำแล้ว  (อ่าน 2180 ครั้ง)

admin
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 51533
    • ดูรายละเอียด
คนเจาะน้ำบาดาล รู้ได้อย่างไรว่าถึงชั้นบริเวณที่มีน้ำแล้ว

1)ระดับน้ำเดิม ของบ่อใกล้เคียง
2) ข้อมูลดิน และหินของบ่อใกล้เคียง

ข้อมูลขณะเจาะ (ขึ้นอยู่กับ ชนิดของเครื่องเจาะ)
1) ดิน/หิน ที่เป็นเศษขึ้นมาตอนเจาะ
2) ปริมาณน้ำ ถ้าตรงไหนตาน้ำแรง จะมีน้ำไหลย้อนขึ้นมากับตัวอย่างมาก ยิ่งถ้าเป็นเครื่องเจาะระบบใช้ลม น้ำจะพุ่งสวนก้านเจาะขึ้นมา
หรือ ดิน/หินตัวอย่างเปียก ส่วนระบบหมุนที่ใช้น้ำโคลน ก็ดูความเหลวของน้ำโคลน หรือปริมาณน้ำโคลนที่ถูกพาขึ้นมา
3) แรงดันย้อนที่หัวเจาะสูงขึ้นแสดงว่าน้ำดัน หรือ หายไปแสดงว่าเป็นโพรง ด้านล่าง (สำหรับเครื่องเจาะที่มีมิเตอร์วัด)

ข้อมูลหลังเจาะ (ก่อนพัฒนาบ่อ)
1) การทดลองเป่าลมลงไปในบ่อตรงๆ เพื่อวัดน้ำที่พุ่งออกมา
2) การหย่อนสายไฟเพื่อเช็คระดับน้ำ
3) การหย่อน Probe เพื่อเช็คน้ำ สภาพหลุมเจาะ และ อื่นๆ

การขอรับใบอนุญาตเจาะน้้าบาดาล

1.ผู้ประสงค์จะเจาะน้้าบาดาลด้าเนินการดังนี้1.  ยื่นค้าขอรับใบอนุญาตเจาะน้้าบาดาล (ตามแบบ นบ.1)ณ ที่ท้าการ อบต./เทศบาลนั้นๆ
2. แนบหลักฐานประกอบการขอรับใบอนุญาตเจาะ ดังนี้ผู้ขอรับใบอนุญาตกรณีบุคคลธรรมดาผู้ขอรับใบอนุญาตกรณีเป็นนิติบุคคล
       1. ส้าเนาทะเบียนบ้าน หรือ ส้าเนาบัตรประชาชนของผู้ขอ ผู้รับมอบอ้านาจ และหรือผู้ให้ความยินยอม
       2.ส้าเนารับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลแสดงรายนามผู้มีอ้านาจลงนาม,ส้าเนาทะเบียนบ้านหรือส้าเนาบัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอ้านาจลงลายมือชื่อผู้รับมอบอ้านาจ และหรือผู้ให้ความยินยอม
       3. หนังสือมอบอ้านาจปิดอากรแสตมป์ 30 บาท (กรณีไม่ได้มายื่นขอด้วยตนเอง)2.หนังสือมอบอ้านาจปิดอากรแสตมป์ 30 บาท(กรณีกรรมการผู้จัดการไม่ได้มายื่นค้าขอด้วยตนเอง)
       4. ส้าเนาหลักฐานการมีกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครอง เช่น โฉนดที่ดิน น.ส.3 หนังสือยินยอมให้ใช้ที่ดิน หนังสือครอบครองสิทธิ์ที่จะเจาะบ่อน้้าบาดาลในที่ดิน
 หรือลงชื่อรับรองว่าเป็นผู้มีสิทธิ์ ในที่ดินในค้าขอรับใบอนุญาตเจาะบ่อน้้าบาดาลกรณีมอบอ้านาจต้องมีส้าเนาบัตรของผู้รับมอบด้วย
       5. ส้าเนาใบอนุญาตประกอบกิจการ โรงงงาน หรือใบอนุญาตขยายโรงงาน (กรณีเป็นโรงงานอุตสาหกรรม)
       6.แบบแปลนจัดสรร (กรณีเป็นหมู่บ้านจัดสรร หรือที่ดินจัดสรร)6. ส้าเนาหนังสือรับรองช่างเจาะ ในกรณีที่ระบุบริษัทเจาะหรือผู้รับเหมาเจาะ
(ส้าหรับบ่อน้้าบาดาลที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตอนบนตั้งแต่ 4 นิ้ว (100มิลลิเมตร) ขึ้นไป และส้าเนาหนังสือรับรอง นักธรณีวิทยา
 หรือ วิศวกร ในกรณีที่ระบุบริษัทเจาะ หรือ ผู้รับเหมาเจาะ ส้าหรับบ่อน้้าบาดาลขนาด 6 นิ้ว (150 มิลลิเมตร) ขึ้นไป ในเขตวิกฤตน้้าบาดาล
และบ่อน้้าบาดาลขนาด 8 นิ้ว (200 มิลลิเมตร) ขึ้นไป นอกเขตวิกฤตการณ์น้้าบาดาล 69 จังหวัด)
       7. แผนที่สังเขปแสดงเส้นทางและสถานที่ที่จะเจาะบ่อน้้าบาดาล8. เอกสารอื่นตามที่เจ้าหน้าที่ก้าหนด

การหาตาน้ำ แบบภูมิปัญญาชาวบ้าน - ลวดเดาว์ซิง Dowsing Rod

การหาตาน้ำแบบภูมิปัญญาชาวบ้านที่ใช้ได้ผล
ใช้เหล็กทองแดง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4-5 มม. ยาวประมาณ 60 ซม. งอเป็นรูป L 2 อัน ถอดรองเท้าจับแล้วเดินช้า ตรงไหนมีตาน้ำ เหล็กจะวิ่งเข้าหากัน

คนโบราณมีศิลปศาสตร์ในการค้นหาน้ำใต้ดิน กรุสมบัติที่ถูกฝัง หรือกระทั่งคนหาย ด้วยกลวิธีเสี่ยงทาย โดยใช้อุปกรณ์พื้นๆ ที่หาได้ทั่วไป

กลเม็ดเคล็ดลับที่ว่านี้ ไม่มีคำไทย จึงขอเรียกตามฝรั่งว่า ดาวซิง (dowsing) และคนที่ทำแบบนี้ก็เรียกว่า ดาวเซอร์ (dowser)
ดาวซิงเป็นไฉน?
ตามความหมายกว้างๆ ดาวซิงเป็นศิลปะของการค้นหาข้าวของต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นการหาน้ำ แต่ก็รวมถึงการหาแร่ หรือน้ำมันด้วย
เครื่องมือที่ใช้นั้นเป็นของธรรมดาสามัญมาก อาจเป็นกิ่งไม้ แท่งโลหะ หรือลูกตุ้มก็ได้
เมื่อถืออุปกรณ์เหล่านี้เดินเข้าใกล้สิ่งที่กำลังค้นหา เช่น แหล่งน้ำ อุปกรณ์จะแสดงปฏิกิริยาบางอย่าง เช่น โน้มปลายชี้ไปยังจุดที่มีน้ำอยู่ใต้ดิน หรือแกว่งไกวในกรณีของลูกตุ้ม
ดาวซิงเป็นกิจกรรมที่มีมาแต่ดึกดำบรรพ์ แต่ประวัติความเป็นมาของศิลปะแขนงนี้ ได้หายสาบสูญไปนานแล้ว
ว่ากันว่าดาวซิงถือกำเนิดมาแล้วอย่างน้อย 8,000 ปี เพราะภาพวาดบนผนังที่ถ้ำทัสซิลีในแอฟริกาเหนือ ซึ่งประมาณว่าเก่าแก่ถึง 8,000 ปี
มีรูปกลุ่มคนป่ากำลังห้อมล้อมชายคนหนึ่ง ซึ่งถือไม้ง่ามอยู่ในมือ ท่าทางเหมือนกำลังหาน้ำด้วยวิธีที่ว่านี้
เชื่อกันว่า ในคัมภีร์ไบเบิลก็อาจมีบันทึกเรื่องดาวซิงอยู่ด้วย ถึงแม้ไม่ได้ระบุชัดก็ตาม คือตอนที่โมเสสกับอาโรนใช้ไม้เท้าชี้แหล่งน้ำ
ขณะนำพาชาวฮีบรูร่อนเร่อยู่ในทะเลทราย หลังจากหนีการเป็นทาสออกจากอียิปต์
บันทึกที่ชัดเจนในเรื่องดาวซิงปรากฏขึ้นในยุคกลาง ซึ่งมีการบรรยายว่าดาวเซอร์ในยุโรปได้ออกค้นหาแหล่งถ่านหินด้วยวิธีนี้
 ซึ่งในศตวรรษที่ 15-16 พวกดาวเซอร์มักถูกประณามว่าเป็นพวกเล่นคุณไสย หรือเป็นพ่อมดแม่มด ถึงกับมีการเรียกการหาน้ำโดยวิธีนี้ว่า "water witching"